อัศวิน หาเสียงวันสุดท้าย ขึ้นรถแห่รอบกรุงฯ

วันนี้ (21 พ.ค. 65) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครอิสระ เบอร์ 6 ใช้วิธีหาเสียงในวันสุดท้าย โดยขึ้นขบวนรถแห่ไปรอบกรุงเทพฯ เริ่มจากย่านดินแดง ไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าถนนพหลโยธิน ผ่านย่านอารีย์ สะพานควาย ตลาดนัดจตุจักร ตลาด อตก. ผ่านมาทางถนนพระราม 5  และจบภารกิจแห่หาเสียงครึ่งเช้าที่บริเวณสะพานซังฮี้

 

 

และเมื่อเวลา 13.40 พล.ต.อ.อัศวิน เริ่มต้นการหาเสียงช่วงครึ่งบ่าย โดยจะออกจากตึกรักษ์กรุงเทพ (ปิ่นเกล้า) มุ่งหน้าแยกบรมราชชนนี เลี้ยวขวาเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าแยกท่าพระ เพื่อเลี้ยวซ้ายไปแยกบางยี่เรือ เลี้ยวขวาเข้าถนนเทอดไท ผ่านตลาดพลู เลี้ยวซ้ายที่แยกมะลิทอง เข้าถนนวุฒากาศ วิ่งตรงไปจนถึงแยกจอมทอง เลี้ยวซ้าย สุดถนน เจอแยกดาวคะนอง เลี้ยวซ้ายผ่านบิ๊กซีดาวคะนอง แยกมไหสวรรค์ ตรงเข้าวงเวียนใหญ่ ข้ามสะพานพุทธยอดฟ้า ตรงผ่านไปทางโรงเรียนสวนกุหลาบ ตรอกหม้อ และมีจุดหมายที่เสาชิงช้า ประมาณ 15.00 น. จากนั้นจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

 

จนเวลา 15.20 น. ขบวนรถแห่หาเสียง พล.ต.อ.อัศวิน ได้จบภารกิจแห่หาเสียงที่บริเวณเสาชิงช้า ใกล้ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดย พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สาเหตุที่มาจบภารกิจที่นี่ เพราะมีความผูกพันตั้งแต่เด็กในการเดินทางมาเรียนหนังสือในย่านนี้ และยังผูกพันกับข้าราชการ กทม. ในช่วงระยะเวลา 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ที่ทำงานในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จนตัดสินใจลาออกเมื่อ 24 มี.ค. 65 เพื่อมาลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่ต้องแข่งขันกันผู้สมัครคนอื่น ๆ ด้วย 

 

ถามว่า มาถึงวันนี้แล้ว ส่วนตัวไม่มีอะไรต้องเสียใจ ที่ผ่านมาทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ ดีที่สุดในชีวิตแล้วในทุกอย่าง ทั้งการทำงานของ กทม. และการหาเสียงตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ดีใจที่ได้พบปะประชาชน 

 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ และกลับไปพักที่บ้าน จากนั้นจะไปอยู่ติดตามผลคะแนนและบรรยากาศเลือกตั้ง เวลาประมาณ 17.00 น. ที่อาคารรักษ์กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกลุ่มครือข่าย “รักษ์กรุงเทพฯ”  

 

“วันพรุ่งนี้ ไม่ว่าผลคะแนนจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ผมทำดีที่สุดทุกอย่างแล้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อาจมีทั้งคนที่ชอบ และคนที่ไม่ชอบ แต่ย้ำว่า ตั้งใจทำเต็มที่ทุก ๆ อย่าง ทุก ๆ ภารกิจแล้วจริง ๆ หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ต่อ ก็พร้อมกลับมาสานต่อโครงการต่าง ๆ ที่คั่งค้างไว้ แต่หากไม่ได้เป็น ก็จะกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว”  

 

พล.ต.อ.อัศวิน ยังย้ำว่า วันสุดทัายแบบนี้ของการหาเสียง ยังอยากย้ำการสื่อสาร ชูธงด้วยคำพูดที่ว่า “ปิดจ๊อบความจน เพื่อคนกรุงเทพฯ” และอีกสโลแกนที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อวานนี้ คือ “หยุดลังเล เพื่อเทให้เบอร์ 6” ซึ่งต้องการสื่อสารเช่นนี้จริง ๆ  

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสจบ ทาง พล.ต.อ.อัศวิน ได้ถ่ายรูปร่วมกันกับทีมงานที่มาช่วยหาเสียงกันมาตลอด รวมถึงยังได้ถ่ายรูปเดี่ยวเป็นที่ระลึก โดยมีฉากหลังเป็นเสาชิงช้า และ ศาลาว่าการ กทม.