ศศิกานต์ ลงพื้นที่สถานีดับเพลิง​ราษฎร์บูรณะ-วัดสารอด

วันนี้ (6 พ.ค. 65) เมื่อเวลา 10.30 น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ หรือ จิ๊บ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 16 ลงพื้นที่สถานีดับเพลิงเขตราษฎร์บูรณะ และชุมชนวัดสารอด จากเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ที่ผ่านมา เพื่อสอบถามปัญหาและหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน โดย น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนหลังวัดสารอด ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 36 หลังคาเรือน ครอบครัวที่ประสบภัย 80 ครอบครัว จำนวนผู้ประสบภัยทั้งหมด 195 คน ซึ่งถือว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

 

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า หน่วยงานรัฐต้องใส่ใจป้องกันปัญหาเหล่านี้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก เพราะไม่มีอะไรจะรับประกันได้เลยว่าเหตุเพลิงไหม้แต่ละครั้งจะสามารถระงับได้ทันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งตนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพราะปัญหาใหญ่สำหรับมหานคร อย่างเช่น อัคคีภัย ยังมีอุปสรรค 3 ด้านคือ 1.อุปกรณ์และยานพาหนะมีสภาพชำรุด ไม่พร้อมใช้งาน เช่น ประปาหัวแดงที่เอาไว้จ่ายน้ำสำหรับดับเพลิง โดยในบางพื้นที่ก็อยู่ไกลจากที่เกิดเหตุ 2.ขาดบุคลากรด้านอัคคีภัย 3.พื้นที่ความรับผิดชอบสถานีดับเพลิงกว้าง จำเป็นต้องเพิ่มสถานีดับเพลิงให้มากที่สุด ให้สามารถเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้เร็วขึ้น สิ่งเหล่านี้ต้องได้รับการพัฒนาและดูแลให้ดีขึ้นทุกข้อ 

 

“พื้นที่ชุมชนในพื้นที่จำกัด ซอยแคบ เข้าดับไฟยาก กว่าเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเข้าไปถึงพื้นที่ก็ส่งผลให้ไฟไหม้ลามเป็นวงกว้าง ดังนั้นจิ๊บคิดว่าในชุมชนทุกชุมชน ต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้น เช่น ถังดับเพลิงให้มากขึ้น และมีการอบรม สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อยับยั้งไม่ให้เพลิงเกิดลุกลามไปในวงกว้างก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะไปถึง และที่สำคัญคือการใช้ระบบ AI มาใช้ในการแจ้งเหตุได้อย่างรวดเร็ว และโลเคชันก็จะถูกต้องแม่นยำ โดยตอนนี้ก็มีแอพพลิเคชันศูนย์พระราม 199 แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เราก็ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ให้ได้” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว

 

น.ส.ศศิกานต์ ยังกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคือส่วนสำคัญให้เกิดกรุงเทพเมืองปลอดภัย พวกเขาถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระ ช่วยเหลือประชาชนในเวลาเกิดเหตุ การดับเพลิงต้องใช้ความกล้าและความเสียสละ เพราะฉะนั้น ถ้าตนได้เข้าไปหน้าที่ผู้ว่า กทม. ตนจะดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของฮีโร่เหล่านี้ให้ได้มีสวัสดิการและขวัญกำลังใจให้ดีขึ้น เพื่อพร้อมต่อการปฎิบัติหน้าที่เมื่อเกิดเหตุ